รวม 8 ต้นแบบด้านการศึกษา จากพระราชจริยวัตรและพระราชกรณียกิจของในหลวง
ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชสมบัติมา พระองค์ท่านมิได้ทรงละเลยต่อการประกอบพระราชกรณียกิจด้านการศึกษาเลยแม้แต่น้อย ด้วยการศึกษานั้นถือเป็นพื้นฐานสำคัญของประเทศชาติ เปรียบเสมือนหลักในการสร้างคนให้เป็นกำลังสำคัญของชาติ พระราชกรณียกิจต่างๆ หรือแม้กระทั่งทุกๆ คำสอน ยังทำให้เราสามารถมองเห็นความเป็นต้นแบบด้านการศึกษาจากพระองค์ท่าน ดังจะเห็นได้จากสิ่งเหล่านี้
1. ความมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล
ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อพสกนิกรของพระองค์ สิ่งที่น้องๆ รับรู้เสมอมาคือพระราชจริยวัตรส่วนพระองค์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล โครงการในพระราชดำริ ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานให้แก่คนไทย ล้วนเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์อันยั่งยืนในอนาคต ไม่ใช่การสร้างประโยชน์หรือแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดผลดีในระยะสั้นแล้วจบไป
หากได้น้อมนำพระจริยวัตรของพระองค์ท่านมาเป็นต้นแบบในการเรียน น้องจะรู้โดยทันทีว่าการเรียนพร้อมกับสำรวจตนเองไปด้วยว่า เป้าหมายที่ต้องการในวันข้างหน้าคืออะไร จะทำให้เราได้ฝึกคาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้ลงมือทำ และลองคิดแก้ปัญหา เมื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้พร้อมรับมือเสมอ การใช้ชีวิตด้วยความมั่นคงย่อมทำให้เราประสบความสำเร็จอยู่แล้ว
2. ความมีวิริยะอุตสาหะ
พระราชหฤทัยห่วงใยในพสกนิกรชาวไทยนั้น เป็นสิ่งที่คนนับร้อยล้านทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนของพระองค์ท่านรับรู้มาโดยตลอด ระยะเวลาอันยาวนานที่พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ขึ้นครองราชสมบัติ ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่แทบมิได้ว่างเว้น พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลกมิได้ประสงค์สิ่งใด นอกจากประชาชนของพระองค์ท่านได้อยู่อย่างสุขสบายในผืนแผ่นดินไทย
เชื่อว่าพระวิริยะอุตสาหะของพระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คงเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยได้เห็นความสำคัญของความเพียรว่า การทำงานที่มีความพยายามเป็นแรงขับนั้นให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแค่ไหน การตั้งใจเรียนเพื่อใฝ่หาความรู้ ก็เป็นทางที่จะนำน้องๆ ไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้มากที่สุดเช่นกัน ยามใดที่รู้สึกท้อหรือเหน็ดเหนื่อยจากการเรียน ขอให้น้องๆ ได้น้อมรำลึกถึงพ่อหลวงของเรา ผู้เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต ลองฮึดสู้ดูอีกสักครั้ง เริ่มต้นจากการสร้างความพยายามเล็กๆ ในการอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด ความเพียรและความตั้งใจจริงไม่เคยทำร้ายใครค่ะ
3. ความเป็นผู้ใฝ่รู้
พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงดำรงตนเป็นแบบอย่างให้แก่พสกนิกรชาวไทยได้รับรู้มาโดยตลอดว่า "ความรู้" คือสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งในชีวิต ผู้มีความรู้และสติปัญญาจะสามารถรักษาตนเองให้รอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ได้ ทั้งการศึกษาหาความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จำเป็นต้องอาศัยการค้นคว้าจากเอกสารต่างๆ เป็นหลัก เมื่อศึกษาอย่างละเอียดแล้ว จึงนำมาสู่การคิดเป็นลำดับถัดไป ทุกครั้งที่พระองค์ท่านเสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎรในทุกท้องถิ่นชนบทที่ห่างไกล ภาพที่ติดตราตรึงอยู่ในหัวใจคือภาพที่พ่อหลวงทรงสะพายกล้อง ถือแผนที่ พกสมุดบันทึกและปากกาติดตัวไปด้วยทุกแห่งหน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ทรงพระราชจริยวัตรอันงดงาม คือความเป็นผู้ใฝ่รู้โดยแท้จริง
ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อพสกนิกรของพระองค์ สิ่งที่น้องๆ รับรู้เสมอมาคือพระราชจริยวัตรส่วนพระองค์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล โครงการในพระราชดำริ ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานให้แก่คนไทย ล้วนเป็นโครงการที่สร้างประโยชน์อันยั่งยืนในอนาคต ไม่ใช่การสร้างประโยชน์หรือแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดผลดีในระยะสั้นแล้วจบไป
หากได้น้อมนำพระจริยวัตรของพระองค์ท่านมาเป็นต้นแบบในการเรียน น้องจะรู้โดยทันทีว่าการเรียนพร้อมกับสำรวจตนเองไปด้วยว่า เป้าหมายที่ต้องการในวันข้างหน้าคืออะไร จะทำให้เราได้ฝึกคาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้ลงมือทำ และลองคิดแก้ปัญหา เมื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้พร้อมรับมือเสมอ การใช้ชีวิตด้วยความมั่นคงย่อมทำให้เราประสบความสำเร็จอยู่แล้ว
2. ความมีวิริยะอุตสาหะ
พระราชหฤทัยห่วงใยในพสกนิกรชาวไทยนั้น เป็นสิ่งที่คนนับร้อยล้านทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนของพระองค์ท่านรับรู้มาโดยตลอด ระยะเวลาอันยาวนานที่พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ขึ้นครองราชสมบัติ ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่แทบมิได้ว่างเว้น พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลกมิได้ประสงค์สิ่งใด นอกจากประชาชนของพระองค์ท่านได้อยู่อย่างสุขสบายในผืนแผ่นดินไทย
เชื่อว่าพระวิริยะอุตสาหะของพระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คงเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยได้เห็นความสำคัญของความเพียรว่า การทำงานที่มีความพยายามเป็นแรงขับนั้นให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าแค่ไหน การตั้งใจเรียนเพื่อใฝ่หาความรู้ ก็เป็นทางที่จะนำน้องๆ ไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้มากที่สุดเช่นกัน ยามใดที่รู้สึกท้อหรือเหน็ดเหนื่อยจากการเรียน ขอให้น้องๆ ได้น้อมรำลึกถึงพ่อหลวงของเรา ผู้เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิต ลองฮึดสู้ดูอีกสักครั้ง เริ่มต้นจากการสร้างความพยายามเล็กๆ ในการอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด ความเพียรและความตั้งใจจริงไม่เคยทำร้ายใครค่ะ
3. ความเป็นผู้ใฝ่รู้
พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงดำรงตนเป็นแบบอย่างให้แก่พสกนิกรชาวไทยได้รับรู้มาโดยตลอดว่า "ความรู้" คือสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งในชีวิต ผู้มีความรู้และสติปัญญาจะสามารถรักษาตนเองให้รอดพ้นจากสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ได้ ทั้งการศึกษาหาความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จำเป็นต้องอาศัยการค้นคว้าจากเอกสารต่างๆ เป็นหลัก เมื่อศึกษาอย่างละเอียดแล้ว จึงนำมาสู่การคิดเป็นลำดับถัดไป ทุกครั้งที่พระองค์ท่านเสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎรในทุกท้องถิ่นชนบทที่ห่างไกล ภาพที่ติดตราตรึงอยู่ในหัวใจคือภาพที่พ่อหลวงทรงสะพายกล้อง ถือแผนที่ พกสมุดบันทึกและปากกาติดตัวไปด้วยทุกแห่งหน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ทรงพระราชจริยวัตรอันงดงาม คือความเป็นผู้ใฝ่รู้โดยแท้จริง
ในวัยของน้องๆ การฝึกฝนพัฒนาตนเองเป็นสิ่งสำคัญ เราจำเป็นต้องรู้จักที่จะเปิดหูเปิดตาเปิดใจให้กว้างและไขว่คว้าความรู้อยู่เสมอ ความรู้อยู่รอบตัวเรา ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะห้องเรียน ความรู้นอกห้องเรียนก็เป็นสิ่งที่รอให้เราลงไปค้นคว้า สัมผัส และเรียนรู้ด้วยตนเองเช่นกัน ยิ่งน้องๆ สะสมความรู้และวางตนเป็นผู้รู้กว้างได้มากเท่าไหร่ ความรู้นั้นก็จะยิ่งสร้างประโยชน์ให้กับทั้งตัวเราเอง ผู้อื่น และประเทศชาติได้มากเท่านั้น ความรู้ติดตัวเราไปตลอดชีวิต และคุณลักษณะใฝ่รู้ก็ช่วยนำไปสู่ความสำเร็จของการเรียนและการใช้ชีวิตได้ค่ะ
4. ความอดทนอดกลั้น
เนื่องด้วยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นกษัตริย์นักปกครองผู้เต็มไปด้วยภาระหน้าที่อันหนักหน่วง ทรงรับผิดชอบดูแลทุกข์สุขของประชาชน ทรงงานหนักเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา 70 ปีพระองค์ท่านนับเป็นต้นแบบของความอดทนได้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยพระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย มิเคยทดท้อเหน็ดเหนื่อยเมื่อต้องทรงลำบากตรากตรำพระวรกาย เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรของพระองค์
ความอดทนนี้เป็นสิ่งที่น้องๆ ควรยึดมาเป็นแบบอย่างทั้งในด้านการเรียนและการดำเนินชีวิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเผชิญกับอุปสรรคปัญหามากมาย แต่พระองค์ท่านก็ยังทรงงานหนักอยู่ เพราะหน้าที่และความรักที่มีต่อประชาชนและประเทศชาติ ความอดทนต่อการเรียนที่ยากลำบาก ก็เป็นหน้าที่ของเราเช่นกัน ถ้ามองว่าอุปสรรคต่างๆ เป็นเครื่องท้าทายขีดความสามารถของตัวเอง แล้วฝ่าฟันอดทนจนผ่านไปได้ ความสำเร็จที่งดงามจะเป็นของน้องๆ ค่ะ
5. คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
จากพระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนมาตลอดเวลากว่าครึ่งศตวรรษ พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงคำนึงถึงความทุกข์ร้อน อันเป็นปัญหาและความทุกข์ยากของราษฎรมาเป็นลำดับแรก แม้ในยามที่ทรงพระประชวร ก็ยังทรงประกอบพระราชภารกิจอันหนัก เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนของพระองค์ สะท้อนให้เห็นถึงความรักที่มีต่อพสกนิกรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การศึกษาหาความรู้สำหรับตัวเอง ถือเป็นด่านแรกที่น้องๆ ทุกคนคงพยายามอย่างหนัก แต่อย่าลืมว่าความรู้ที่น้องๆ ได้รับและนำมาใช้นั้นจะมีประโยชน์กว่าเดิมมาก ถ้าเราเลือกที่จะนำไปแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นด้วย การนึกถึงประโยชน์ของตนเองสำคัญฉันใด การนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมของผู้อื่นก็เป็นสิ่งสำคัญฉันนั้นค่ะ ถ้ามีโอกาสที่จะนำความรู้ที่มีไปช่วยเหลือผู้อื่น ก็อย่ารั้งรอที่จะทำให้เหมือนกับที่พ่อหลวงของเราได้ทรงปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่างนะคะ
6. ความรับผิดชอบต่องาน
นอกจากพระราชกรณียกิจที่ประชาชนชาวไทยรับรู้มาตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงงานเป็นเนืองนิจแล้ว เชื่อว่ายังมีโครงการในพระราชดำริอีกหลายโครงการ ที่พระองค์ท่านทรงวางแผนเพื่อพัฒนาประเทศของเรา ทรงมิเคยทอดทิ้งประชาชนและโครงการที่พระองค์จัดตั้งขึ้น ยังทรงติดตามผลงาน และพยายามพัฒนาทุกโครงการให้เกิดประโยชน์กับราษฎรทุกชั้นชนในระยะยาวเสมอ
4. ความอดทนอดกลั้น
เนื่องด้วยพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงเป็นกษัตริย์นักปกครองผู้เต็มไปด้วยภาระหน้าที่อันหนักหน่วง ทรงรับผิดชอบดูแลทุกข์สุขของประชาชน ทรงงานหนักเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา 70 ปีพระองค์ท่านนับเป็นต้นแบบของความอดทนได้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยพระราชจริยวัตรอันเรียบง่าย มิเคยทดท้อเหน็ดเหนื่อยเมื่อต้องทรงลำบากตรากตรำพระวรกาย เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรของพระองค์
ความอดทนนี้เป็นสิ่งที่น้องๆ ควรยึดมาเป็นแบบอย่างทั้งในด้านการเรียนและการดำเนินชีวิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเผชิญกับอุปสรรคปัญหามากมาย แต่พระองค์ท่านก็ยังทรงงานหนักอยู่ เพราะหน้าที่และความรักที่มีต่อประชาชนและประเทศชาติ ความอดทนต่อการเรียนที่ยากลำบาก ก็เป็นหน้าที่ของเราเช่นกัน ถ้ามองว่าอุปสรรคต่างๆ เป็นเครื่องท้าทายขีดความสามารถของตัวเอง แล้วฝ่าฟันอดทนจนผ่านไปได้ ความสำเร็จที่งดงามจะเป็นของน้องๆ ค่ะ
5. คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
จากพระราชกรณียกิจที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนมาตลอดเวลากว่าครึ่งศตวรรษ พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงคำนึงถึงความทุกข์ร้อน อันเป็นปัญหาและความทุกข์ยากของราษฎรมาเป็นลำดับแรก แม้ในยามที่ทรงพระประชวร ก็ยังทรงประกอบพระราชภารกิจอันหนัก เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนของพระองค์ สะท้อนให้เห็นถึงความรักที่มีต่อพสกนิกรอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
การศึกษาหาความรู้สำหรับตัวเอง ถือเป็นด่านแรกที่น้องๆ ทุกคนคงพยายามอย่างหนัก แต่อย่าลืมว่าความรู้ที่น้องๆ ได้รับและนำมาใช้นั้นจะมีประโยชน์กว่าเดิมมาก ถ้าเราเลือกที่จะนำไปแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นด้วย การนึกถึงประโยชน์ของตนเองสำคัญฉันใด การนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมของผู้อื่นก็เป็นสิ่งสำคัญฉันนั้นค่ะ ถ้ามีโอกาสที่จะนำความรู้ที่มีไปช่วยเหลือผู้อื่น ก็อย่ารั้งรอที่จะทำให้เหมือนกับที่พ่อหลวงของเราได้ทรงปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่างนะคะ
6. ความรับผิดชอบต่องาน
นอกจากพระราชกรณียกิจที่ประชาชนชาวไทยรับรู้มาตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงงานเป็นเนืองนิจแล้ว เชื่อว่ายังมีโครงการในพระราชดำริอีกหลายโครงการ ที่พระองค์ท่านทรงวางแผนเพื่อพัฒนาประเทศของเรา ทรงมิเคยทอดทิ้งประชาชนและโครงการที่พระองค์จัดตั้งขึ้น ยังทรงติดตามผลงาน และพยายามพัฒนาทุกโครงการให้เกิดประโยชน์กับราษฎรทุกชั้นชนในระยะยาวเสมอ
การเรียนรู้เรื่องใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่น้องๆ ควรจะต้องมีก็คือความรับผิดชอบค่ะ ยิ่งโดยเฉพาะความรับผิดชอบต่องานที่ทำ ความรับผิดชอบผลของการกระทำ ฯลฯ ไม่ว่าจะงานเล็กหรือใหญ่ หากเรามีความรับผิดชอบแล้ว ยังไงก็สามารถทำออกมาให้ดีได้แน่นอน ลองนึกถึงตอนที่เราเรียน หรือตอนที่กำลังจะสอบ สิ่งสำคัญเลย ก็คือการตั้งใจทำงานให้เต็มที่ และจะทำงานใด ไม่ว่าจะในห้องเรียน หรือนอกห้องเรียน อย่าลืมมีความรับผิดชอบต่องานที่ทำเสมอค่ะ
7. การรับฟังผู้อื่น และยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง
สำหรับข้อนี้เหตุการณ์ที่เห็นเด่นชัดที่สุด คงจะเป็นตอนที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กล่าวไว้ในหนังสือว่า เมื่อครั้งโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาปี 2546 พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัสเตือนทุกฝ่ายให้ ปรึกษาหารือกัน และแสดงเหตุผล ลองดูว่าเหตุผลไหนจะยอมรับได้ และถูกต้องมากกว่า เมื่อตกลงกันแล้วก็ลงมือปฏิบัติได้เลย สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่พ่อสอนเสมอว่า ทุกคนควรรับฟังกัน และยอมรับได้ หากมีความคิดเห็นที่แตกต่าง
เป็นข้อสำคัญที่อยากให้น้องๆ พึงมีเลยนะคะ เพราะนอกจากในชีวิตประจำวันที่ต้องเจอผู้คนมากมายหลากหลายความคิดเห็น การทำงานทุกอย่างตั้งแต่งานกลุ่ม งานห้อง หรืองานระดับชั้นในโรงเรียน น้องๆ ก็อาจพบกับความคิดเห็นที่แตกต่างและหลากหลายได้ทุกเมื่อ ดังนั้น อย่าลืมรับฟังผู้อื่น และยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างอยู่เสมอนะคะ
8. การพูดจริง ทำจริง
หลายครั้งที่คำพ่อสอน ไม่ได้เป็นแค่คำสอนเพื่อเตือนใจเราเท่านั้น แต่ทุกครั้งพระองค์ท่านเลือกที่จะทรงปฏิบัติให้เห็นมากกว่า เราจึงจดจำภาพพระราชจริยวัตรและพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์ท่านได้ขึ้นใจ พระราชดำรัสเมื่อครั้งที่ทรงขึ้นครองราชย์ว่าพระองค์ท่าน "จะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" มิได้ผิดไปจากรับสั่ง ทรงปฏิบัติพระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งอยู่ในดวงใจของไทยทุกคนแล้ว
ข้อนี้อาจจะใกล้เคียงกับความรับผิดชอบที่น้องๆ ควรมีต่อการเรียน แต่อย่าลืมนะคะว่าความรับผิดชอบอย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอให้น้องๆ มีความมุ่งมั่นขึ้นมาได้ ถ้าน้องบอกกับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะตั้งใจเรียน จะทำให้ท่านภูมิใจ แล้วลุกขึ้นมาอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัดอย่างจริงจังตั้งใจเมื่อไหร่ นั่นแหละค่ะ คือการพูดจริง ทำจริง เราได้ทำตามในสิ่งที่พูดแล้ว ไม่ได้เป็นเพียงความตั้งใจแบบลอยๆ อีกต่อไป
7. การรับฟังผู้อื่น และยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง
สำหรับข้อนี้เหตุการณ์ที่เห็นเด่นชัดที่สุด คงจะเป็นตอนที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กล่าวไว้ในหนังสือว่า เมื่อครั้งโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาปี 2546 พระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัสเตือนทุกฝ่ายให้ ปรึกษาหารือกัน และแสดงเหตุผล ลองดูว่าเหตุผลไหนจะยอมรับได้ และถูกต้องมากกว่า เมื่อตกลงกันแล้วก็ลงมือปฏิบัติได้เลย สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่พ่อสอนเสมอว่า ทุกคนควรรับฟังกัน และยอมรับได้ หากมีความคิดเห็นที่แตกต่าง
เป็นข้อสำคัญที่อยากให้น้องๆ พึงมีเลยนะคะ เพราะนอกจากในชีวิตประจำวันที่ต้องเจอผู้คนมากมายหลากหลายความคิดเห็น การทำงานทุกอย่างตั้งแต่งานกลุ่ม งานห้อง หรืองานระดับชั้นในโรงเรียน น้องๆ ก็อาจพบกับความคิดเห็นที่แตกต่างและหลากหลายได้ทุกเมื่อ ดังนั้น อย่าลืมรับฟังผู้อื่น และยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างอยู่เสมอนะคะ
8. การพูดจริง ทำจริง
หลายครั้งที่คำพ่อสอน ไม่ได้เป็นแค่คำสอนเพื่อเตือนใจเราเท่านั้น แต่ทุกครั้งพระองค์ท่านเลือกที่จะทรงปฏิบัติให้เห็นมากกว่า เราจึงจดจำภาพพระราชจริยวัตรและพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์ท่านได้ขึ้นใจ พระราชดำรัสเมื่อครั้งที่ทรงขึ้นครองราชย์ว่าพระองค์ท่าน "จะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" มิได้ผิดไปจากรับสั่ง ทรงปฏิบัติพระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งอยู่ในดวงใจของไทยทุกคนแล้ว
ข้อนี้อาจจะใกล้เคียงกับความรับผิดชอบที่น้องๆ ควรมีต่อการเรียน แต่อย่าลืมนะคะว่าความรับผิดชอบอย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอให้น้องๆ มีความมุ่งมั่นขึ้นมาได้ ถ้าน้องบอกกับคุณพ่อคุณแม่ว่าจะตั้งใจเรียน จะทำให้ท่านภูมิใจ แล้วลุกขึ้นมาอ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัดอย่างจริงจังตั้งใจเมื่อไหร่ นั่นแหละค่ะ คือการพูดจริง ทำจริง เราได้ทำตามในสิ่งที่พูดแล้ว ไม่ได้เป็นเพียงความตั้งใจแบบลอยๆ อีกต่อไป
พระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระประมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการศึกษา นับเป็นของขวัญพระราชทานที่พระองค์ท่านได้มอบให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทเพื่อเป็นหลักสำคัญในการดำเนินชีวิต มาร่วมสานต่อพระราชปณิธานของพ่อหลวงของเรา